jQuery เป็นไลบรารี JavaScript ที่ช่วยให้การเขียนโค้ดง่ายขึ้น โดยมี syntax ที่ใช้งานง่ายและย่อส่วน ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับ HTML, CSS และ JavaScript ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือรายละเอียดของ jQuery Syntax
พื้นฐานของ jQuery Syntax
jQuery ใช้สัญลักษณ์ $
เป็นตัวแทนของ jQuery เรียกง่ายๆ ว่าเป็นสัญลักษณ์ย่อ เช่นเดียวกับการเรียกฟังก์ชันของ jQuery
$(selector).action()
องค์ประกอบหลักของ jQuery Syntax
$
(ตัวแทนของ jQuery) สัญลักษณ์ $
ใช้เพื่อเรียก jQuery เช่นเดียวกับการบอกให้ jQuery ทำงาน
$(document).ready(function() {
// โค้ด jQuery อยู่ที่นี่
});
Selector (ตัวเลือก) ใช้เพื่อเลือกองค์ประกอบ (HTML elements) ที่ต้องการจะทำงานด้วย คล้ายกับการใช้งาน CSS Selectors
ตัวอย่าง Selectors ยอดนิยม
#id
เลือกตามid
ขององค์ประกอบ
.class
เลือกตามclass
ขององค์ประกอบ
element
เลือกตามชื่อแท็กขององค์ประกอบ (เช่นdiv
,p
)
$("#myId").hide(); // ซ่อนองค์ประกอบที่มี id = myId
$(".myClass").show(); // แสดงองค์ประกอบที่มี class = myClass
$("p").css("color", "red"); // เปลี่ยนสีข้อความของทุกแท็ก <p> เป็นสีแดง
Action (การกระทำ): การกระทำ (action) หรือฟังก์ชันที่ต้องการให้ jQuery ทำงานกับ selector ที่เลือก เช่น การซ่อน การแสดง การเปลี่ยนแปลงสไตล์ ฯลฯ
ตัวอย่างของ Action
.hide()
ซ่อนองค์ประกอบ
.show()
แสดงองค์ประกอบ
.css()
ใช้ปรับแต่ง CSS ขององค์ประกอบ
.html()
เปลี่ยนเนื้อหาด้านในขององค์ประกอบ
$("p").hide(); // ซ่อนทุกแท็ก <p>
$("#myId").css("color", "blue"); // เปลี่ยนสีข้อความของ id = myId เป็นสีฟ้า
การใช้งานฟังก์ชัน Events ใน jQuery
jQuery ช่วยให้เราสามารถผูกเหตุการณ์ (events) กับองค์ประกอบ HTML ได้ง่ายๆ เช่น คลิก, เลื่อนเมาส์, ปุ่มกด เป็นต้น
click()
จัดการเหตุการณ์เมื่อมีการคลิกhover()
จัดการเหตุการณ์เมื่อเมาส์เลื่อนเข้าหรือออกkeyup()
จัดการเหตุการณ์เมื่อกดปุ่มคีย์บอร์ด
// เมื่อมีการคลิกที่ปุ่ม id="myButton" ให้ซ่อนข้อความใน id="myText"
$("#myButton").click(function() {
$("#myText").hide();
});
การเข้าถึงและแก้ไขเนื้อหา HTML
text()
ดึงหรือเปลี่ยนข้อความภายในองค์ประกอบhtml()
ดึงหรือเปลี่ยน HTML ภายในองค์ประกอบval()
ดึงหรือเปลี่ยนค่าของ input field
// ดึงข้อความภายใน <p> ทั้งหมด
var text = $("p").text();
// เปลี่ยนข้อความภายใน <p> ทั้งหมด
$("p").text("ข้อความใหม่");
การจัดการ Class และ Attribute
jQuery สามารถใช้เพื่อจัดการ class หรือ attribute ขององค์ประกอบ HTML ได้อย่างง่ายดาย
addClass()
เพิ่ม class ให้กับองค์ประกอบremoveClass()
ลบ class จากองค์ประกอบattr()
ดึงหรือเปลี่ยนค่า attribute
// เพิ่ม class="newClass" ให้กับทุกแท็ก <p>
$("p").addClass("newClass");
// ลบ class="oldClass" ออกจากทุกแท็ก <p>
$("p").removeClass("oldClass");
// ดึงค่า href ของลิงก์
var link = $("a").attr("href");
// เปลี่ยนค่า href ของลิงก์
$("a").attr("href", "https://www.example.com");
การใช้งาน Effects
jQuery มีฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการทำเอฟเฟกต์เช่น การซ่อน/แสดง, เลื่อน, ซีดจาง เป็นต้น
fadeIn()
แสดงองค์ประกอบด้วยเอฟเฟกต์ซีดจางfadeOut()
ซ่อนองค์ประกอบด้วยเอฟเฟกต์ซีดจางslideUp()
ซ่อนองค์ประกอบด้วยการเลื่อนขึ้นslideDown()
แสดงองค์ประกอบด้วยการเลื่อนลง
// ซีดจางแสดงองค์ประกอบ <p>
$("p").fadeIn();
// เลื่อนขึ้นเพื่อซ่อนองค์ประกอบ <p>
$("p").slideUp();
การใช้งาน jQuery กับ Ajax
jQuery สามารถใช้เพื่อทำงานกับ Ajax ได้อย่างสะดวก เช่น ดึงข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ต้องรีเฟรชหน้าเว็บ
$.ajax({
url: "data.json",
method: "GET",
success: function(response) {
console.log(response);
}
});
สรุปแล้ว jQuery ช่วยให้การจัดการ DOM, การสร้างเอฟเฟกต์ และการใช้งาน Ajax ง่ายและกระชับขึ้น ทำให้เราสามารถจัดการ HTML ได้อย่างง่ายดาย